คู่มืออธิษฐาน ประจำวัน

คู่มืออธิษฐาน ประจำวัน

การนมัสการ/สรรเสริญ

“พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย”- ความสัมพันธ์ ของเรากับพระเจ้า

พระบิดาในสวรรค์ที่รัก

ข้าพระองค์เข้ามาเฝ้าพระองค์ในพระนามพระเยซู (เอเฟซัส 2:18) ข้าพระองค์ยินดีที่พระองค์ทรงเชิญข้าพระองค์ให้มีสามัคคีธรรมกับพระองค์และกับพระบุตรของพระองค์คือพระเยซู (1 ยอห์น 1:4), และกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ฟิลิปปี 2:1)

พระองค์ทรงเชิญข้าพระองค์ให้เข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความมั่นใจ เพื่อจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่จะช่วยเราในยามต้องการ (ฮีบรู 4:16)

ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความสงสาร (สดุดี 103:13) “ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก” (เพลงคร่ำครวญ 3:22-23)

พระวจนะถาม “ใครเล่าได้ขึ้นสวรรค์และลงมา? ใครรวบรวมลมไว้ในอุ้งมือของตน? ใครเอาเสื้อผ้าห่อห้วงน้ำไว้? ใครสถาปนาที่สุดปลายแห่งแผ่นดินโลก? ผู้นั้นชื่ออะไร? และบุตรของผู้นั้นชื่ออะไร? ท่านจะต้องรู้แน่” (สุภาษิต 30:4)

สรรเสริญพระองค์ พระบิดา ที่ได้รู้ว่าพระเยซูคือพระบุตรของพระองค์ และข้าพระองค์ยินดีที่จะเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ที่ว่า “ทุกคนจะได้ถวายพระเกียรติแด่พระบุตร เหมือนที่พวกเขาถวายพระเกียรติแด่พระบิดา” (ยอห์น 5:23)

พระเยซูเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสละเกียรติที่ทรงมีร่วมกับพระบิดาก่อนที่โลกถูกสร้างมา (ยอห์น 17:5), และสำหรับการเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก (1 ยอห์น 4:14)

ขอบพระคุณที่ทรงรักข้าพระองค์มากจนยอมสละพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาลบบาปของข้าพระองค์ และไม่ใช่แค่บาปของข้าพระองค์เท่านั้นแต่ของทั้งโลกด้วย (1 ยอห์น 2:2)

พระองค์ได้รับบาดเจ็บเพราะบาปของข้าพระองค์ พระองค์ทรงบอบช้ำเพราะความบาปผิดของข้าพระองค์ พระองค์ทรงถูกโบยตีเพื่อให้ข้าพระองค์มีสันติสุขกับพระเจ้า โดยรอยแผลของพระองค์ จึงทำให้ข้าพระองค์ได้รับการเยียวยาฝ่ายวิญญาณ (อิสยาห์ 53:5)

ขอสรรเสริญพระองค์ พระเยซูเจ้า ที่ทรงลุกขึ้นจากอุโมงค์ มีชัยชนะเหนือความตายและนรก (วิวรณ์ 1:18) เพราะข้าพระองค์เข้าส่วนเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ ข้าพระองค์จึงตายต่อบาปและได้ฟื้นขึ้นมาดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยเช่นกัน (โรม 6:4)

ขอนมัสการพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์

ขอทรงเติมข้าพระองค์ให้สดใหม่ด้วยการทรงสถิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ (เอเฟซัส 5:18)

พระองค์ทรงปลอบโยน (กิจการ 9:31), เสริมกำลัง (เอเฟซัส 3:16) และ นำ (โรม 8:14) แต่ละคนที่ปรารถนาจะทำให้พระเจ้าพอพระทัย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะรู้วิธีร่วมมือกับพระองค์

พระองค์ทรงทำให้โลกรู้แจ้งในเรื่องความบาป ความชอบธรรมของพระเจ้า และการพิพากษาที่จะมาถึง (ยอห์น 16:8)

ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้ยอมจำนนต่อการนำของพระองค์ในทุกด้านของชีวิต (กาลาเทีย 5:24)

ขอทรงชำระข้าพระองค์จากทุกสิ่งที่จะเป็นอุปสรรคต่อการทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตของข้าพระองค์ ขออย่าให้ข้าพระองค์ทำให้พระองค์เสียพระทัยในทางใดใด (เอเฟซัส 4:30)

“ผู้สถิตในสวรรค์”-ความเป็นกษัตริย์ของพระเจ้า

สวรรค์เป็นสถานที่ เป็นที่ที่พระบัลลังก์ของพระเจ้าตั้งอยู่ แต่เราต้องไม่คิดว่าการสถิตของพระเจ้าจำกัดอยู่เพียงสวรรค์ พระองค์สถิตอยู่ทุกแห่ง (“ทรงปรากฏอยู่ทุกที่”) - สดุดี 139:7-12) อย่างไรก็ตาม มีคำกล่าวว่าพระเจ้าสถิตอยู่ในที่บางแห่งมากกว่าที่อื่น ความจริงที่ว่า พระเจ้าสถิตในสวรรค์มีความหมายว่าพระองค์ไม่ทรงถูกจำกัดอยู่ในทรัพยากรของโลก พระองค์ทรงมีอำนาจสูงสุดและทรงมีทรัพยากรที่ไม่จำกัด นอกจากนั้น “สวรรค์” หมายถึงความสมบูรณ์และทำให้ผมระลึกได้ว่าพระเจ้าทรงเป็นความสมบูรณ์แบบของความเป็นพ่อ

พระบิดาในสวรรค์ ขอสรรเสริญพระองค์ที่ “ทรงสถาปนาบัลลังก์ของพระองค์ไว้ในฟ้าสวรรค์ และราชอาณาจักรของพระองค์ครอบครองทุกสิ่งอยู่” (สดุดี 103:19)

พระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าในฟ้าสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีกเลย” (เฉลยธรรมบัญญัติ 4:39; ปฐมกาล 24:3)

“ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุด และโลกกับทุกสิ่งที่อยู่ในโลกเป็นของพระยาห์เวห์” (เฉลยธรรมบัญญัติ 10:14) “ดูสิ ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุดยังรับพระองค์อยู่ไม่ได้” (1 พงศ์กษัตริย์ 8:27)

“ขอพระองค์ทอดพระเนตรจากสถานประทับบริสุทธิ์ของพระองค์และขอทรงอวยพรแก่ประชากรของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์” (เฉลยธรรมบัญญัติ 26:15)

พระบิดา พระองค์ตรัสว่า “บรรดาผู้ที่รักษาพระโอวาทของพระองค์ก็เป็นสุข พวกเขาแสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ” (สดุดี 119:2)

“ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ ขออย่าให้ข้าพระองค์หลงไปจากพระบัญญัติของพระองค์ ข้าพระองค์ได้เก็บรักษาพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์” (สดุดี 119:10-11)

พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสวรรค์และกษัตริย์ในชีวิตข้าพระองค์

“ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ” – พระเกียรติคุณของพระเจ้า

ธรรมชาติของพระเจ้า (ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงเป็นและกระทำ) นั้นบริสุทธิ์ เมื่อเราอ้างตัวว่าเป็นคริสเตียน เราอ้างถึงความสัมพันธ์กับพระองค์โดยทางพระเยซูคริสต์ เพราะพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ เราต้องบริสุทธิ์ในทัศนคติและการกระทำทั้งสิ้นของเรา (1เปโตร 1:15, 16) เรามีอิทธิพลต่อสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับพระองค์ พระเกียรติคุณของพระองค์อยู่ในมือของเรา

พระบิดา ทุกสิ่งที่ทรงเป็น และทุกสิ่งที่ทรงกระทำนั้นบริสุทธิ์ ไม่มีพระอื่นใดเป็นเหมือนพระองค์ —“ทรงงามสง่าในความบริสุทธิ์ และน่าเกรงขามด้วยพระสิริและทรงทำการอัศจรรย์” (อพยพ 15:11)

พระองค์ทรงเป็น “องค์ผู้สูงเด่นและสูงส่ง ผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์ ทรงพระนามว่าบริสุทธิ์ พระองค์ดำรงอยู่ในที่สูงและบริสุทธิ์” (อิสยาห์ 57:15a)

พระองค์ทรงเลือกที่จะอยู่กับผู้สำนึกผิดและมีวิญญาณจิตที่ถ่อม เพื่อฟื้นฟูวิญญาณจิตของผู้ที่ถ่อม และฟื้นฟูใจของผู้สำนึกผิด (อิสยาห์ 57:15b)

ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้สำนึกผิดและถ่อมใจ เพื่อการสถิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์b จะดำรงอยู่กับข้าพระองค์และฟื้นฟูใจข้าพระองค์

พระบิดา ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ดำรงชีวิตอยู่วันนี้ในลักษณะที่จะไม่หันเหไปจากความบริสุทธิ์ของพระองค์ ชื่อเสียงของพระองค์อยู่ในมือของข้าพระองค์ตั้งแต่เมื่อมาเป็นคริสเตียน ขออย่าให้ข้าพระองค์นำความเสื่อมเสียมาสู่พระนามบริสุทธิ์ของพระองค์โดยสิ่งใดใดที่ข้าพระองค์ทำหรือพูด (โรม 2:14)

ขอให้ผู้คนเห็นความบริสุทธิ์ของพระองค์—ทัศนคติและการกระทำที่เป็นเหมือนพระคริสต์—ฉายออกมาจากชีวิตของข้าพระองค์ เพราะพระองค์ทรงบัญชา “จงเป็นคนบริสุทธิ์ในชีวิตทุกด้าน” (1 เปโตร 1:15)